ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

About Bella

                 Hello. My name is Ponwarin Buabanjong.My nickname is Bell.ID 5311114036. I'm 21 years old.I'm study English Major Education at Nakhon Si Thammarat Rajabhat University.You can call me 088-3849177. Facebook ( Ponwarin Buabanjong).My e-mail is bell-ponwarin@hotmail.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Bella

                     My name is Ponwarin Buabanjong .My nickname is Bell. I'm 21 year old. I'm study English Major Education at Nakhon Si Thammat Rajabahat University.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Learning Log O_o


Learning  Log


6 มิถุนายน 2555
  เรียนเรื่องInnovation Education Technology in the global Classroom สอนการสร้างข้อสอบโดยใช้เครื่องมือนักพัฒนา และแบ่งกลุ่มละ 6 คน ช่วยกันศึกษาเรื่องOn The Problems and Strategies of Multimedia Technology in English Teaching และนำเสนอหน้าชั้นเรียน


7 มิถุนายน 2555
อ่านบทความ On the problem and Strategies of Muitimedia Techcology in English Teaching (ปัญหาและวิธีการของการนำเทคโนโลยีสื่อประสมในการสอนภาษาอังกฤษ) แบ่งหัวข้อและให้แต่ละกลุ่มออกแบบมานำเสนอหน้าชั้นเรียน สอนการสร้าง Blog , การสมัคร G-mail การเปลี่ยน template, ปฎิทิน ใส่วีดีโอจาก Youtube ,การใส่นาฬิกา ,การใส่ปฏิทิน เป็นต้น


14 มิถุนายน 2555

เรียนเรื่องการทำ blog การตกแต่งบล็อก การใส่นาฬิกา , ปฏิทิน , แทรกวีดีโอ , เพิ่มบทความ , เพิ่มลิงก์ไปยังเพื่อนในห้องเรียนและอาจารย์


21 มิถุนายน 2555

เรียนการทำ Link บทความไปยังหน้า Website ต่างๆ โดยใช้ “Recent posts”ซึ่งเป็นตัวแสดงชื่อของบทความที่ใส่ไปใน Blogและอาจารย์บอกรายละเอียดข้อมูลที่จะต้องใส่ในบล็อก

28 มิถุนายน 2555

เรียนรู้การตกแต่ง Photoshop เพื่อที่จะมาใส่ใน Blog ด้วยโปรแกรม Photoshop และตกแต่ง blog


5 กรกฎาคม2555
เรียนรู้ขั้นตอนการทำแบบสำรวจใส่ Do you like my blog? แล้วให้เพื่อน vote ใน blog และ Linkเว็บที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเรียน ได้เรียน เรื่อง CAI หรือ บทเรียนช่วยสอนคอมพิวเตอร์โดยต้องใช้ โปรแกรมAdobeCaptivate 5 อาจารย์ เปิดตัวอย่าง การออกแบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จัดทำ Story board เรื่องต่างๆ โดยให้นักศึกษาเลือกเรื่องที่จะสอนเอง มี Pre-test, Exercise 1,2 และ Post- test


12 กรกฎาคม2555
เรียนรู้เรื่อง CAI วันนี้อาจารย์ออกแบบ (หน้าแรก) “ ยินดีต้อนรับเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ช่วยสอน” ในเรื่องที่เราจะสอน ให้ตั้งวัตถุประสงค์
19 กรกฎาคม2555
เรียนรู้การทำให้รูปภาพ / ตัวอักษรขึ้นเวลาใช้เมาส์ไปชี้อาจเป็นการใช้ในเรื่องของคำศัพท์หรืออาจจะเป็นการให้ข้อความมาและเมื่อชี้ที่รูปภาพก็จะเป็นคำศัพท์ขึ้นมา


26 กรกฎาคม 2555

เรียนรู้การใส่เสียงใน CAI โดยหารูป หูฟัง แล้วหา Fileที่เก็บเสียงในโฟล์เดอร์ คำศัพท์ที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะสอน เช่น Good job, Excellent ,try again,Try once more.
การออกแบบข้อสอบแบบเลือกตอบซึ่งต้องมีการตั้งค่า ที่ผู้เรียนสามารถตอบได้เพียงคำตอบเดียว , ตอบให้ถูกต้องก่อนไปทำข้ออื่นโดยมีการตั้งค่าต่างๆ ทำข้อความแสดงต้องการออกจากโปรแกรม (เมื่อกด Exit จะมีการใช้คำถาม “Do you want to exit? ” และมี คำว่า YES / NOด้วย) จากนั้นก็ตั้งค่าปุ่มต่างๆเพื่อเชื่อมเข้าด้วยกัน



9 สิงหาคม 2555
อาจารย์สอน การออกข้อสอบ แบบ True - False และ Fill in the blank 

16 สิงหาคม 2555
อาจารย์สอนวิธีการ Publish file แบบ Media และได้ บอกเนื้อหาที่ต้องใส่ในรายงานทั้งหมด

14 กันยายน 2555

สอนการใส่ชื่อ login ใน CALL และการ Publish fileอีกวิธีหนึ่ง เป็น Flash (.swf)

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Applying Innovative Spirit to Multimedia Foreign Language Teaching



การประยุกต์จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมลงในสื่อการสอนภาษาต่างประเทศ
1. บทนำ
         ในปัจจุบัน ผู้คนต่างตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และการฝึกฝนด้วยตัวผู้เรียนเองกลายเป็นหัวข้อที่คนกำลังให้ความสนใจ ด้วยพัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สื่อเทคโนโลยีถูกใช้งานในการสอนมากขึ้น รวมถึงในการสอนภาษาอังกฤษเช่นกัน ตัวอย่างเช่นหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่คาดหวังการใช้สื่อและระบบเครือข่ายในการสอนรูปแบบใหม่ ขณะเดียวกัน ผู้เรียนก็ได้รับการแนะนำให้เรียนภาษาอังกฤษโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยมากขึ้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการผสมผสานระหว่างสื่อเทคโนโลยี กับการสอนภาษาอังกฤษถูกปลูกฝังลงในวิธีการสอน แต่นี้จะช่วยให้การเรียนภาษาประสบความสำเร็จจริงหรือ

         คำตอบคือไม่ ในทางปฏิบัติ สื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงมีข้อบกพร่อง อีกทั้งความเข้าใจผิดของครูผู้สอน หรือแม้แต่เนื้อหาที่มีอยู่ในวงที่จำกัด ท้ายที่สุด ผลออกมาเป็นว่าเกิดความไม่สมดุลในบางสถานศึกษา ที่ลงทุนมาก แต่ผลตอบแทนกลับไม่คุ้มค่าอย่างที่คิด การที่การใช้สื่อในการสอนภาษานั้นจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ จะต้องขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมในตัวครูผู้สอน, การมีแนวคิดของนวัตกรรมการสอนของตนเอง, การใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย และความคิดสร้างสรรค์ที่ปฏิบัติได้จริง
2. สื่อการสอน และแนวคิดนวัตกรรมทางการศึกษา

         ธรรมเนียมการสอนภาษาอังกฤษแบบเก่าๆ นั้น จะพึ่งพาการผสมผสานระหว่างครูผู้สอน นักเรียน ชอล์ค กระดานดำ และเทปบันทึกเสียง ในขณะที่การสารโดยใช้สื่อ จะรวมเอา ครู นักเรียน คอมพิวเตอร์ และบทเรียนเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีทฤษฎีสร้างความรู้ใหม่ด้วยตนเอง ตามทฤษฎีนี้ ผู้เรียนจะไม่เป็นแค่ผู้รับความรู้อยู่เฉยๆ แต่จะเป็นผู้สร้างที่กระตือรือร้นด้วย ดังนั้นผู้เรียนก็จะสามารถนำความรู้ที่ได้รับนอกห้องเรียน มาสร้างเป็นความรู้ใหม่ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้เรียนจะประสบความสำเร็จในการเรียน

         ทฤษฎีนี้ถือเป็นทฤษฎีพื้นฐานของการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้สื่อ ขณะที่กำลังสอนโดยใช้สื่อ ตัวครูเองก็ต้องสร้างสรรค์ หรือริเริ่มแนวคิดเกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษา เป็นของตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยี จะไม่สามารถแสดงศักยภาพได้ด้วยการใช้มันเป็นแค่กระดาษ และตัวชี้เท่านั้น
          ดังนั้น ครูควรนำบทเรียนมาใช้ดำเนินการแก้ปัญหาการศึกษา ขณะเดียวกันก็หลบเลี่ยงวิธีการสอนแบบยัดเยียดซึ่งปกตินิยมใช้กัน เปลี่ยนเป็นการจัดการชั้นเรียนอย่างเหมาะสม เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารของผู้สอนกับผู้เรียน จากแบบหุ่นยนต์ สั่ง ทำตาม สั่ง ทำตาม เป็นแบบครูกับนักเรียน และนักเรียนกับนักเรียน เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของตัวผู้เรียนในกระบวนการเรียนการสอนอีกด้วย
3. การใช้สื่อการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ และการค้นพบรูปแบบการสอนภาษาใหม่ๆ
 
ประโยชน์อย่างหนึ่งของการใช้สื่อในการสอนภาษาคือ เป็นการช่วยเพิ่มรูปแบบ วิธีการ และคำนิยามของการสอนภาษาให้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากรในการสอนไปสู่ขั้นสูง จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จของการเรียนภาษา
3.1 ผลกระทบเชิงบวกของสื่อต่อการสอนภาษาต่างประเทศ
อย่างแรกเลย สื่อการสอนจะช่วยเพิ่มคุณค่าของข้อมูลในการสอน และช่วยประหยัดเวลาจากการเขียนกระดานดำ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของชั้นเรียนอีกด้วย เวลาที่เพิ่มมาก็สามารถนำไปใช้ทบทวนบทเรียนได้
ข้อสอง ด้วยการบูรณาการแสง สี เสียง และรูปภาพ เข้าด้วยกัน ไว้ในสื่อ จะช่วยยกระดับการสอน และรูปแบบการเรียนรู้ ทั้งที่ตัวผู้สอนเอง และตัวผู้เรียน สภาพแวดล้อมที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนได้รับผลตอบกลับในทันที เพื่อให้ทราบถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
ข้อสาม ครูผู้สอนสามารถแสดงเนื้อหาบทเรียนได้ด้วยข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ครูสามารถบันทึกรายการโทรทัศน์ลงในแผ่นดิส และให้นักเรียนชมเพื่อให้ทันความเป็นไปของโลก
ข้อสี่ ข้อมูลมัลติมีเดียแบบหลายมิติ จะช่วยปลูกฝังการคิดแบบเชื่อมโยงให้แก่นักเรียน ความคิดของมนุษย์นั้นจะสะท้อน และเชื่อมโยงกัน ทั้งเสียง ภาพ ความรู้สึก และตัวเลข จะช่วยสร้างประสิทธิภาพของความคิดและความทรงจำของมนุษย์ ครูสามารถใช้สื่อสร้างความยืดหยุ่นของข้อมูล และเลือกใช้วิธีการสอน
ข้อห้า การสอนโดยใช้สื่อจะให้แพลตฟอร์มสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างครู กับนักเรียน และนักเรียนกับนักเรียน ครูสามารถตอบปัญหาของนักเรียนในห้อง หรือเลือกที่จะตอบข้อซักถามต่อผ่านทางระบบออนไลน์ แม้กระทั้งตรวจข้อสอบของนักเรียนด้วย ช่องทางนี้ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนติดต่อสื่อสารกันเองได้อย่างสะดวกสบายด้วย
3.2 ปัญหาและทางออกที่เกี่ยวข้องกับการสอนโดยใช้สื่อ
นอกจากผลกระทบเชิงบวกของการใช้สื่อในการสอนแล้ว ข้อผิดพลาด และความเข้าใจผิดอาจเกิดขึ้นในการสอนได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะปรากฎในรูปแบบดังต่อไปนี้
อย่างแรก การครอบงำในการถ่ายทอดความรู้ด้วยข้อมูลสมัยใหม่ บทเรียนแบบง่ายๆ ที่ครูใช้สอน แต่ขาดการใช้นวัตกรรม แบบเรียนนี้อาจง่ายต่อครูในการสอน แต่จะเป็นการละเลยต่อสถานะของผู้เรียน ด้วยเหตุนี้ การใช้สื่อจึงไม่สัมฤทธิ์ผลอย่างที่ควร
อย่างที่สอง ผลกระทบจากการใช้สื่อมากเกินไป เหมือนต้นไม้ที่ออกดอกมาก แต่ไม่มีผล เมื่อขาดการวิเคราะห์เนื้อหาของบทเรียน และออกแบบการสอนที่เหมาะสม ทำให้ผลการสอนไม่ออกมาอย่างที่คิด วิธีการที่จะนำเสนอต่อไปนี้สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่กล่าวมาได้


ขั้นแรก รวมวิชากับสื่อเข้าด้วยกันด้วยวิธีที่ถูกต้อง การสอนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการฟัง การพูด การอ่านแบบละเอียด และอ่านแบบกว้างๆ หลักสูตรที่ต่างกัน ก็ต้องการวิธีการสอนและสื่อเทคโนโลยีที่ต่างกัน ครูผู้สอนควรจะสามารถวิเคราะห์ลักษณะความแตกต่างของแต่ละวิชา และเลือกใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ วิชาที่เกี่ยวกับการฟังและพูดควรจะเน้นที่การสร้างโอกาส และบรรยากาศในการสื่อสารกันในภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียน ครูสามารถรวมหัวข้อการสื่อสาร และโครงสร้างของประโยคลงในสื่อที่สดใส และใช้งานง่าย เช่น ภาพ เพลง หรือภาพยนต์ ในขณะเดียวกันก็จัดให้ผู้เรียนสร้างบทพูด (Dialogues) บทละคร และการพูดคุยด้วยสื่อ เพื่อเสริมสร้างความน่าสนใจ และความกระตือรือร้นของผู้เรียน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Innovative Educational Technology in the Global Classroom


Innovative Educational Technology in the Global Classroom 

เทคโนโลยีใหม่ๆ ในห้องเรียนระดับโลก                                      
(Innovative Educational Technology in the Global Classroom)

            โลกาภิวัตน์และนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญของการศึกษาของครู ESOLและ ครู TESOL เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการปฏิบัติทางการศึกษา ซึ่งกล่าวได้กล่าวว่า "เมื่อสร้างงานเทคโนโลยีแบบบูรณาการครูควรพิจารณาสิ่งที่พวกเขาต้องการให้นักเรียนที่จะเรียนรู้จากมันในแง่ของทั้งเทคโนโลยีและเนื้อหาทางวิชาการ." 

การบูรณาการเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน
                การบูรณาการเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน ครูควรพิจารณาถึงสิ่งที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้ ทั้ง ด้านเทคโนโลยีและเนื้อหาด้านวิชาการ และเป็นสิ่งสำคัญเพื่อทบทวน วัตถุประสงค์ ขั้นตอน และการประเมินผลงาน ทั้งสองประเภทของเทคโนโลยีการเรียนการสอน คือESOLและ ELL ซึ่งเป็นการสอนที่ผสมผสานการสื่อสารระหว่างกัน เช่น การสนทนาออนไลน์ และเทคโนโลยีแบบคงที่ เช่นpodcasting

 กรณีศึกษาของผู้เรียนภาษา (The ELL Case study)
                  ในการเรียนการสอนจะประกอบด้วย นักเรียนและครูสนทนากันเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตจริง เพื่อที่จะให้ครูได้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับผู้เรียน ครูสามารถตรวจสอบภาษาศาสตร์ และความรู้เดิมทางวัฒนธรรม การออกแบบสถานการณ์จำลองการศึกษาที่เกี่ยวข้อง และการแก้ปัญหาทางภาษาที่แท้จริง การสร้างภาษาอังกฤษเป็นศูนย์กลางของแหล่งภาษาอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ เพื่อนร่วมงาน ครู และพ่อแม่ ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
        1. เตรียมความพร้อมกรณีศึกษาโดยการเลือกผู้เข้าร่วมการเรียนภาษาอังกฤษและการทบทวนกรณีศึกษาผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษ
       2. การเก็บรวบรวบข้อมูลจากกรณีศึกษาผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษ
       3. การวิเคราะห์ข้อมูล
       4. การสร้างสถานการณ์ที่สามารถแก้ปัญหาได้

การเขียนบล็อก (Blogging)
                 การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับกรณีศึกษาซึ่งกลายเป็นบันทึกออนไลน์ของนักเรียน ซึ่งจะอัปโหลดลงเว็บบล็อก อาจเป็นข้อความ, ภาพกราฟิก, ไฟล์ PDF, รูปภาพ, ลิงค์เกี่ยวกับบล็อกต่าง

Podcasting
               หลังจากที่นักเรียนมีบล็อกแล้ว พวกเขาก็จะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Podcasting ได้แก่   การใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นโปรแกรมเสียงสำหรับการดาวน์โหลด สามารถเล่นเสียงด้วยคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเล่นMP3

Creating a Wiki
                การสร้างแหล่งข้อมูล (Creating a Wiki) จะทำหลังมีบล็อก ซึ่งครูผู้สอนจะเป็นคนแนะนำวิธีการสอนและกิจกรรมที่ให้เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาผ่านทางวิกิพีเดียในกระดานดำ(http://www.blackboard.com)

Online Discussion
                  สนทนาทางออนไลน์ (Online Discussion) จะสนทนาผ่านทางกระดานข้อความ

ข้อเสนอแนะในการนำเทคโนโลยีไปใช้   Implications
                 ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อนักเรียนและครูเกิดการเรียนรู้ที่เหมือนกันคือ  ถ้าเป็นนักเรียนสิ่งที่พวกเขาต้องการเรียนรู้ (What they want to learn?)  เมื่อไหร่ที่พวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้ (When they want to learn?)ที่ที่พวกเขาต้องการเรียนรู้  (Where they want to learn?)  ถ้าเป็นครู  สิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะสอน  (What they want to teach?)   เมื่อพวกเขาต้องการที่จะสอน (When they want to teach?) ที่ที่พวกเขาต้องการที่จะสอน   (Where they want to teach?)       
   เคล็ดลับสำหรับการบูรณาการเทคโนโลยีในห้องเรียน
                1.ต้องกล้าเสี่ยงกับเทคโนโลยีใหม่
                2.ต้องคุ้นเคยกับเทคโนโลยีก่อนที่จะแนะนำให้ผู้อื่น
                3.สร้างชุมชนการเรียนรู้ในเชิงบวก
                4. ค้นหาและใช้บทเรียนต่างๆและเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Acronyms

IT ย่อมาจาก Information technology หรือในภาษาไทยเรียกว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์
สารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์

เมื่อ รวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ
 
 
ICT (Information and Communication Technology)แปลว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูลและการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนำมาวิเคราะห์หรือประมวลผล การรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บและการนำไปใช้งานใหม่ เทคโนโลยีเหล่านี้มักจะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนอุปกรณ์ (hardware) ส่วนคำสั่ง (software) และส่วนข้อมูล (data) และระบบการสื่อสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ระบบสื่อสารข้อมูล ดาวเทียมหรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ ทั้งมีสายและไร้สาย (ความหมายตามที่ให้ไว้ในแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ ไทย พ.ศ. 2545-2549) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันทุกวันนี้อย่าง ยิ่ง จึงตั้งหน่วยงานขึ้นรองรับและบริการ เกิดเป็นกระทรวงใหม่ชื่อ "กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร-Ministry of Information and Communication Technology" หรือกระทรวงไอซีที-ICT
ที่มา br.correct.go.th/eduweb/index.php/eduessay/44-educational-knowledge/62-cai.html


CAI  (ย่อมาจาก Computer-Assisted Instruction)  
คือ โปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่มีหน้าที่เป็นสื่อการเรียนการสอนเหมือนแผ่นใส (Transparent) สไลด์ (Slide) หรือวีดิทัศน์ (Video) ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน ฉะนั้น CAI  ก็คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยสอน โดยมีการกำหนดให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับการเรียนได้เช่น เดียวกับการเรียนในห้องเรียนกับครู  เพียงแต่มีคามยืดหยุ่นน้อยกว่าเท่านั้น





CALL (Computer-assisted language learning)หมายถึงโปรแกรมช่วยเรียนภาษาโดยเฉพาะ ใช้ได้ทั้งกับการเรียนในห้องเรียน โดยมีผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแลกระบวนการเรียน และการให้ผู้เรียนเรียนจากโปรแกรมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ดวยตนเอง (Self-access learning center) หรือ ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์และสำหรับสถานศึกษาทีมีความพร้อมก็อาจมอบแผ่นโปรแกรมให้ ผู้เรียนนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานศึกษาโดยผ่านโมเด็มและสาย โทรศัพท์
 



WBI (Web-based Instruction) หมายถึงการเรียนการสอนผ่านเว็บเป็นการจัดสภาพการเรียนการสอนที่ได้รับการออกแบบอย่างมีระบบ โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บ มาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพโดยอาจจัด เป็น การเรียนการสอนทั้งกระบวนการหรือนำมาใช้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้ง หมดและช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคของการเรียนการสอนทางด้านสถานที่และเวลาอีกด้วย ที่มา http://student.nu.ac.th/fon/wbi.htm
 
 
 


CBI (Computer-Based  Instruction ) หมายถึง วิธีการสอนหรือการฝึกหัดใด ๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ บางทีอาจเรียกว่าการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ, การเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์, การฝึกหัดโดยใช้คอมพิวเตอร์  
ที่มา  http://www.edu.nu.ac.th/supanees/lesson/366515/unit5_p04.html

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

On the problems Strategies of Multimedia Technology in English Teaching

ปัญหาและกลยุทธ์ของเทคโนโลยีมัลติมีเดียใน 
 การสอนภาษาอังกฤษ
บทนำ        
ในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคโลกาภิวัตน์วิทยาศาสตร์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งจำเป็น ต้องเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ การพัฒนาของเทคโนโลยีมัลติมีเดียและการประยุกต์กับการเรียนการสอน รูปแบบการสอนแบบเก่าไม่เหมาะสำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษร่วมสมัยและเทคโนโลยีมัลติมีเดียจึง มีเสียง ภาพ ภาพเคลื่อนไหวมาเต็มรูปแบบในการเรียนการสอนชั้นเรียนภาษาอังกฤษ และชุดแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับการปฏิรูปและการสำรวจเกี่ยวกับรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษ  เทคโนโลยีมัลติมีเดียจึงมีบทบาทการส่งเสริมกิจกรรมและความคิดริเริ่มของนักเรียนและผลของการเรียนการสอนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษช่วยกระตุ้นให้ นักเรียนเกิดการเรียนรู้มากขึ้น

ความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ
A. การปลูกฝังความสนใจของนักเรียนในการเรียน
      
     ในปัจจุบันนี้วิธีการสอนที่ล่าสมัยและสภาพแวดล้อมที่น่าเบื่อ ในขณะที่เทคโนโลยีมัลติมีเดียที่มีระบบเสียง,ภาพ,ภาพเคลื่อนไหวตามธรรมชาติช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนทำให้ได้รับข่าวสารที่มากขึ้นและสืบค้นข้อมูลได้เป็นอย่างดีทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน

                B. ส่งเสริมความสามารถการสื่อสารของนักเรียน
              
       การเรียนการสอนแบบเก่าทำให้ให้นักเรียนเข้าใจตัวภาษา ยากที่จะบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารกับครูที่ให้คำแนะนำของนักเรียนรูปแบบการคิดและการสร้างแรงจูงใจอารมณ์ของนักเรียน, เทคโนโลยีมัลติมีเดียได้ช่วยส่งเสริมความต้องการของผู้เรียน บูรณาการการเรียนการสอนและให้นักเรียนจูงใจมากขึ้น. บทเรียน PPT ในการสอนภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยสามารถเปิดใช้งานการคิดของนักเรียน กิจกรรมในชั้นเรียน เช่น การสนทนากลุ่มอภิปรายเรื่องและการอภิปรายยังสามารถให้โอกาสในการสื่อสารในหมู่นักเรียนและระหว่างครูกับนักเรียน การเรียนการสอนเทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้มีแรงบันดาลใจในความคิดเชิงบวกของนักเรียนและทักษะการสื่อสารในการปฏิบัติทางสังคม  

C. เพื่อขยายความรู้ของของนักเรียนเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมตะวันตก
          บทเรียนแผ่นดิสก์มัลติมีเดียสามารถนำเสนอข้อมูลของนักเรียนได้มากมาย มีการครอบคลุมภาษาอังกฤษมัลติมีเดียกว้างไกลกว่าในเนื้อหาและวัสดุภาษามีชีวิตจริงซึ่งมีมากตามธรรมชาติและใกล้กับชีวิต ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถในการฟังของพวกเขา แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก การรู้ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆสามารถจัดให้นักเรียนมีความรู้และนำมาเกี่ยวกับข้อมูลร่วมกันในหมู่นักศึกษาและทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียนและการสื่อสาร บูรณาการของมนุษย์และเครื่องจักรการสื่อสารและการสื่อสารระหว่างบุคคลนำไปสู่การพัฒนาร่วมกันในหมู่นักเรียนในการพูดการอ่านและการเขียน

D. การปรับปรุงผลการเรียนการสอน
       
     การ เสริมสร้างการเรียนการสอนมัลติมีเดียการเรียนการสอนเนื้อหาและรูปแบบการแบ่ง "ครูเป็นศูนย์กลาง" การเรียนการสอนและพื้นฐานการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียน มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่นักเรียนของพวกเรามีชั้นเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนขนาดใหญ่ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนที่จะมีการพูดสื่อสารกัน รูปแบบการสอนแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่เน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับครูและให้ข้อมูลที่ถูก จำกัด ที่ตรงกันข้ามเทคโนโลยีมัลติมีเดียไปเกินเวลาและพื้นที่สร้างขึ้นมีทั้งภาพ, สภาพแวดล้อมที่แท้จริงสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่มของนักเรียนและประหยัดเวลาในชั้นเรียน

III  การวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ
       ข้อได้เปรียบของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการเรียนการสอนชั้นเรียนภาษาอังกฤษในการปรับปรุงผลการเรียนการสอนและนักศึกษามหาวิทยาลัย  โดยรวมมีปัญหามากที่มีอยู่ในการเรียนการสอนในทางปฏิบัติ  เช่น

A.ความหมายหลักแทนที่ด้วยการช่วยเหลือแบบหนึ่ง
    การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้บรรลุผลการเรียนการสอนที่คาดการณ์ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มัลติมีเดียในระหว่างการเรียนการสอนครูผู้สอนมากเกินไปทำให้ครูไม่มีบทบาทในการสอน  ในทางปฏิบัติของครูมีการใช้งานในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมมากในการค้นหาข้อมูลและการทำงานออกบทเรียน ในชั้นเรียนที่พวกเขาใช้คอมพิวเตอร์นักเรียนจะสนใจบนหน้าจอของพวกเขาเท่านั้น   ดังนั้นครูและนักเรียนจึงไม่สื่อด้วยสายตาระหว่างกัน  ด้วยเหตุนี้ความคิดของการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ควรจะเข้าใจอย่างเต็มที่ว่าเทคนิคการศึกษาที่ทันสมัย​​ให้บริการที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่าเป้าหมายและที่ไม่ควรครองชั้น ด้วยความช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนครูควรจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่หลักสูตรทางด้านวิชาการและวัสดุการเรียนการสอนที่จะหาวิธีการมากความรู้ของนักศึกษาของเราได้รับข้อมูลมัลติมีเดียควรจะน้อยลงและนำที่ดีขึ้นโดยเน้นที่โดดเด่นและนวัตกรรมใหม่ในการเรียนการสอน

B. จะสูญเสียการสื่อสารโดยการพูด
     ในตอนนี้มีการเสนอความคิดเห็นว่าในชั้นเรียนควรนำภาษาอังกฤษมาใช้ทั้งหมด ภาษาอังกฤษและภาษาอังกฤษวิเคราะห์ โดยครูผู้สอนจะต้องเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียน จากการออกเสียงภาษาอังกฤษเพื่อให้เกิดความเข้าใจและพัฒนารูปแบบภาษาอังกฤษของผู้เรียน และการแสดงความคิดเห็นโดยการพูด ในขณะที่การแนะนำเทคโนโลยีที่หลากหลาย ที่มีลักษณะเฉพาะทางการได้ยิน การมองเห็น ผลลัพธ์ของข้อความสามารถทำให้พบเจอกับการได้ยินและการมองเห็นของความต้องการของผู้เรียน และช่วยเพิ่มความสนใจให้กับผู้เรียน แต่มันไม่ได้เป็นผลมากนักที่ขาดการสื่อสารระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียน  เสียงของครูถูกแทนที่โดยเสียงของคอมพิวเตอร์ และการวิเคราะห์ของครูโดยการจินตนาการ การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของนักเรียนสำหรับการพูดในการสื่อสาร เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่อำนวยโดยมีการสื่อสารร่วมกันระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน เสียงและภาพของสื่อทำให้ผู้เรียนเกิดการกระตุ้นและมีการริเริ่มกลับมาคิดและพูด ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษนักเรียนเป็นผู้ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในกิจกรรมในชั้นเรียน

C. ทำให้ความสามารถในการคิดลดลง
      ความชัดเจนในการสอนภาษาเป็นความแตกต่างจากศาสตร์วิชาต่างๆ สำหรับการสอนภาษาไม่ต้องการการสาธิตที่มีขั้นตอนที่หลากหลาย อันที่จริงความตึงเครียดทางด้านอารมณ์เป็นรูปแบบคำถามและคำตอบระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียน โดยครูจะหยิบยกคำถามขึ้นมากะทันหันและแนะนำนักเรียนให้รู้จักคิด ฝึกฝน ค้นพบศักยภาพของตนเอง และรู้จักการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามการอธิบายที่มากเกินไปและก่อนที่จะมีการเตรียมล่วงหน้าขาดเวลาที่ใช้สื่อได้จริงๆและจะไม่สามารถได้รับผลตอบรับการเรียนของนักเรียน ดังนั้นมันจะเป็นการละเลยในเรื่องของการเน้นและความสำคัญในการสอน การสอนที่ไม่มีการเอาใจใส่ในการคิดของนักเรียนและการตระหนักของการประเมินทางภาษา นอกจากนี้มันยังได้รับความสนใจน้อยลง สำหรับเวลาในการเรียนที่อิสระและมีความคิดที่ว่ามีแนวโน้มที่จะมีความสุข การใช้สื่อที่ชัดเจนเพื่อไปกระตุ้นความคิดของผู้เรียนจะเป็นบทบาทในการใช้สื่อ จะเป็นแนวทางในการกระตุ้นความคิดของพวกเขาทำให้ค้นพบศักยภาพที่แข็งแกร่ง พิจารณาและแก้ปัญหา ในทางเดียวกันมันควรที่จะพัฒนาศักยภาพความคิดของผู้เรียน ควรจะมีการบันทึกทางด้านความคิดของผู้เรียน ควรจะนำวัตถุประสงค์หลักในการสอน สื่อที่หลากหลายที่ไม่ควรจะหยิบยกในเวลาที่นักเรียนเกิดความคิด ปัญหา วิเคราะห์และตรวจสอบคำถาม

D. คิดแบบนามธรรมจะถูกแทนที่ด้วยความคิดจินตนาการ
กระบวนการของความเข้าใจและขั้นตอนของความคิดอย่างมีเหตุผล มันจะประยุกต์กระบวนการเรียนและเป็นความหวังในการสอนของพวกเราทำให้นักเรียนนำความรู้ที่มีอยู่มาใช้และบทสรุปที่ดีนี้ได้จากการคิดอย่างเข้าใจเพื่อนำไปสู่การคิดอย่างมีเหตุผล เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นวัตถุประสงค์หลักในการสอนเนื้อหา ปรับปรุงความคิดเชิงนามธรรมของนักเรียนให้ดีขึ้น สื่อ เทคโนโลยีทำให้เนื้อหาง่ายขึ้นและมันมีประโยชน์ที่โดดเด่น มันสามารถเน้นการอธิบายในการสอน ในขณะเดียวกันถ้าภาพและจินตนาการในจิตใจของนักเรียนที่แสดงให้เห็น ความคิดเชิงนามธรรมของพวกเขาต้องการการจำกัดและความคิดอย่างมีเหตุผล ในปัจจุบันความสามารถในการอ่านของนักเรียนลดน้อยลงจนกลายเป็นปัญหาหลัก เนื้อความได้แทนที่ด้วยภาพและเสียง ลายมือเขียนโดยใช้คีย์บอร์ด การเอาใจใส่ของการใช้สื่อ เทคโนโลยีที่มากเกินไปจะทำให้สถานการณ์แย่ลง
            ทั้งหมดทั้งมวลนี้ สื่อเป็นเหมือนอุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยเหลือแต่ไม่สามารถแทนที่บทบาทที่มีอิทธิพลของครูผู้สอน และมันก็เป็นส่วนที่เติมเต็มกระบวนการสอน นอกจากนี้มันยังไม่ใช่การเลียนแบบของการสอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการบูรณาการในส่วนของเนื้อหากับประสบการณ์ของครูผู้สอนที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือนักเรียน  ดังนั้นก็เหมือนกับการปรับปรุงพัฒนาการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนของตัวผู้เรียนให้ดีขึ้น
        
IV ข้อเสนอแนะและกลยุทธ์ในการปัญหาที่มีอยู่         
     ในการเรียนการสอนในทางปฏิบัติก็เป็นที่ไม่เหมาะสมที่เนื้อหาต้นฉบับเดิมจะซ้ำกันเพียงแค่ไปที่หน้าจอเพื่อให้ตำแหน่งของครูจะถูกละเว้น เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของมัลติมีเดียในการเรียนการสอนก็ควรจะตั้งข้อสังเกตว่า
A.  บทเรียน ไม่ทำแต่สิ่งที่สวยงามอย่างเดียว
      บทเรียนไม่ทำแต่สิ่งที่สวยงามอย่างเดียว  เราต้องมีการกระตุ้นให้เกิดมีการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนและพัฒนาทักษะการฟัง พูด ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเติมเต็มตรงนั้นได้ เพราะฉะนั้นการแปลหรือฝึกตีความของครูยังจำเป็นในการเรียนการสอน  คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ครูต้องช่วยอธิบายเติมเติมด้วย   นอกจากนี้มัลติมีเดียใช้ได้แต่ใช้เป็นตัวช่วยครูให้มีประสิทธิภาพในการสอนมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าไม่นั้นครูก็เป็นเพียงแค่คนกำกับเท่านั้น
B. หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ
     หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ เพราะกระดานเราสามารถแก้ไขเพิ่มเติมตลอดเวลาได้  ซึ่งการเรียนการสอนเด็กต้องมีคำถามที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา  ถ้าใช้กระดานดำครูสามารถเขียนอธิบายแก้ไขเพิ่มเติมได้เพราะฉะนั้นอย่าใช้แต่จอคอมพิวเตอร์
C. PowerPoint ไม่สามารถใช้ในการแยกความคิดและปฏิบัติได้
      ปัจจุบันมัลติมีเดียมากที่สุดส่วนใหญ่มีบทเรียนเกี่ยวกับภาพและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อการสอนก่อให้เกิดผลกระทบให้นักเรียนไม่ได้เกิดการคิด อภิปราย   บทเรียนต้องทันสมัยใช้แต่ PPT การตั้งคำถามของครูในการเข้าสู่บทเรียนยังจำเป็นและยังกระ ตุ้นนักเรียนด้วย
D. เครื่องมือการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมและอุปกรณ์ไม่ควรมองข้าม
       มัลติมีเดียให้ความช่วยเหลือในการเรียนการสอนไม่สามารถแทนที่ด้วยเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นครูควรจะเลือกสื่อที่เหมาะสมตามความต้องการของการสอนและบูรณาการที่ใช้ในการมัลติมีเดียที่มีประเพณีอย่างหนึ่งอย่างเต็มที่และดำเนินการทำบุญของพวกเขามากกว่าเพียงในการแสวงหาวิธีการที่ทันสมัย
   E. เทคโนโลยีมัลติมีเดียไม่ควรมีมากเกินไป
        ไม่ควรใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปเพราะถ้าใช้มากเกินเพราะถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้เด็กเหมือนจะสนใจแต่ที่จริงแล้วเด็กนั่งดูเฉยๆ และเด็กก็ไม่ได้เกิดการเรียนรู้
       สรุปว่  เห็นได้ชัดว่าสื่อมัลติมีเดียนั้นมีประโยชน์ในการเรียนการสอนมากคือสื่อมัลติมีเดียเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เรียนสนใจ แต่ในขณะเดียวกันสื่อมัลติมิเดียทั้งหลายก็ไม่สามารถแทนการเรียนการสอนได้ทั้งหมดเพราะเนื่องจากสื่อมัลติมีเดียอาจทำให้ครูและผู้เรียนขาดการสื่อสารระหว่างกันจึงไม่สามารถทำให้ครูผู้สอนรู้ได้ว่าสิ่งได้ที่เรียนไปนั้นผู้เรียนมีความสนใจมากน้อยเพียงใด สรุปได้ว่าสื่อมัลติมีเดียไม่สามารถใช้แทนบทบาทของครูผู้สอนได้ทั้งหมด  ดังนั้น ครูผู้สอน ผู้เรียน และสื่อควรจะมีความสำคัญเท่ากัน หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว การเรียนการสอนก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร




  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS